Categoriesสุขภาพ

เสียงสัญญาณเตือน โรคข้อเข่าเสื่อม !

กร๊อบแกร๊บ กร๊อบแกร๊บ...เสียงสัญญาณเตือน โรคข้อเข่าเสื่อม !

สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินชวนมาทำความรู้จักโรคข้อเข่าเสื่อม ภัยร้ายใกล้ตัวกันค่ะ หลายคน คงไม่สนใจเพราะคิดว่ายังไม่แก่สักหน่อย…แต่แอดมินขอบอกว่า ปัจจุบันผู้ที่ยังอายุน้อยก็มีซิงเกิลจังหวะกร๊อบๆ แกร๊บๆ เป็นของตัวเองกันได้แล้วนะจ้ะ และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย สาเหตุไม่ได้เป็นเรื่องของอายุ แต่เพราะน้ำหนักตัวที่เกิน และการใช้ข้อเข่ามากเกินไปหรือใช้ผิดท่าผิดวิธีจนทำให้เกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมเร็วกว่าปกติ ซึ่งถ้ามาแค่เสียงก็คงไม่น่ากังวลอะไร แต่ดันมาพร้อมอาการเสียวแปล๊บเหมือนไฟช็อต ลุกนั่งก็ลำบาก เดินขึ้นลงบันไดก็ปวดร้าว อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณอันตรายของ “ข้อเข่าเสื่อม” ค่ะ

โรคข้อเข่าเสื่อม

โรคข้อเข่าเสื่อม (Knee Osteoarthritis) คือโรคที่เกิดจากความเสื่อมของกระดูกอ่อนผิวข้อเข่า ทั้งทางด้านรูปร่าง โครงสร้าง การทำงานของกระดูกข้อต่อและกระดูกบริเวณใกล้ข้อ มีการสึกและเสื่อมลงตามอายุ เมื่อไม่มีผิวกระดูกอ่อนมาห่อหุ้ม เนื้อกระดูกจึงมีการชนกันขณะรับน้ำหนัก จึงทำให้เกิดอาการปวดเข่า เข่าบวม ข้อยึดติด โดยจะรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ หัวเข่าก็จะผิดรูป จนไม่สามารถประกอบกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ

สำหรับเสียงกร๊อบแกร๊บนั้น เกิดขึ้นเมื่อข้อเข่าเริ่มสึกจะมีการเสียดสีของเยื่อบุภายในข้อหรือเอ็นที่หนาตัวขึ้น มีความขรุขระของกระดูกอ่อนที่บุปลายหัวกระดูก โดยผู้ป่วยจะมีเสียงกร๊อบแกร๊บ ในข้อเข่าขณะเคลื่อนไหว และจะรู้สึกปวดเข่าร่วมด้วย

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม ก็มาจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อายุที่เพิ่มมากขึ้น, เพศ, กรรมพันธุ์, น้ำหนักตัวที่เกิน, การใช้งานบริเวณขาและหัวเข่ามากเกินไป, ความบกพร่องของส่วนประกอบ ของข้อ, อุบัติเหตุที่เกิดแรงกระแทก หรือเป็นผลจากโรคบางชนิด อย่างโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคเก๊าท์ เป็นต้น

เล่ามาถึงตรงนี้แล้ว…แอดมินขอกระซิบว่า จริงๆ วันนี้แอดมินมีตัวช่วยดีๆ เรื่องข้อเข่าอย่าง “เซซามิน” มาแนะนำให้รู้จักกันด้วยค่ะ

เซซามิน สารที่สกัดได้จากงาดำ ซึ่งให้ผลในการป้องกันและรักษาโรคข้อเสื่อมได้เป็นอย่างดี โดยเซซามินจะทำหน้าที่ยับยั้งการทำงานของสารที่เรียกว่า “อินเตอร์ลิวคิน -1 เบต้า” ซึ่งเป็นตัวเร่งและกระตุ้นให้เกิดการทำลายเส้นใยคอลลาเจนและสารชีวโมเลกุลต่างๆ ของเนื้อกระดูกอ่อน ดังนั้น หากผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคข้อเข่าเสื่อมได้รับสารเซซามินจากงาดำในปริมาณเพียงพอก็สามารถป้องกันและระงับอาการข้อเสื่อมและข้ออักเสบได้ นอกจากนี้ สารเซซามินยังช่วยกระตุ้นให้เซลล์สร้างกระดูกทำงานได้ดียิ่งขึ้น และช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ป้องกันปัญหากระดูกพรุน กระดูกบางได้อีกทางหนึ่งด้วย

สรรพคุณเลิศขนาดนี้..แอดมินขอตัวไปทาน BiolexPlus ก่อนแล้วกันนะคะ ไว้พบกันใหม่คอลัมน์หน้า แอดฯ ยังมีเรื่องดีๆ มาเล่าสู่กันฟังอีกเพียบเลยค่ะ..

Categoriesสุขภาพ

สมองเสื่อม

ภาวะสมองเสื่อมนั้นสร้างความทุกข์ให้กับตัวผู้ป่วยเอง รวมไปถึงคนรอบข้างได้หลายมิติมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการลืมว่าวางของไว้ที่ไหน ลืมชื่อคน หรือจำสถานที่ที่คุ้นเคยไม่ได้ แต่แบบนี้ยังถือว่าเป็นการเสื่อมของสมองขั้นไม่รุนแรง ในระดับปานกลางจะเริ่มมีอาการทางจิตและประสาทหลอน และในระดับรุนแรง เรียกได้ว่าขาดความสามารถในการดูแลตัวเอง เริ่มมีบุคลิกที่เปลี่ยนไป รวมไปถึงสามารถเป็นอันตรายต่อบุคคลรอบข้างและตัวเองได้เลย
 
อาการเสื่อมของสมองมีปัจจัยหนึ่งที่ใกล้ตัวพวกเราทุกคนอย่างมากนั่นคือ ‘การกินอาหารที่มีไขมันสูง’ และ ‘การขาดสารอาหารบางชนิด’ ไปจนถึงการ ‘ขาดวิตามินบี 1 และบี 12’ ซึ่งพบมากในคนที่ชอบดื่มแอลกอฮอล์ หรือแม้กระทั่งผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติ เพราะวิตามิน บี 12 มักจะอยู่ในน้ำปลาและเนื้อสัตว์ ดังนั้นเมื่อบริโภคอาหารที่อุดมด้วยไขมันไป พร้อมกับร่างกายขาดวิตามิน ก็จะทำ ให้หลอดเลือดตีบและอุดตัน เพราะไขมันจะไปขัดขวางการไหลเวียนของเลือด จึงทำให้เสี่ยงต่อการที่เลือดไปไหลเวียนเลี้ยงสมองได้ไม่ดี เมื่อสมองไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง เซลล์และเนื้อเยื่อจึงเกิดการเสื่อมสภาพและ เนื้อสมองตายบางส่วนตามลำดับ
 
วิธีแก้ ก็คือต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ ผัก ผลไม้ หมั่นทำกิจกรรมที่ใช้ทักษะสมองง่ายๆ เช่น พบปะเพื่อนฝูง ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือว่าแม้กระทั่งการออกไปท่องเที่ยวก็ช่วยได้ พร้อมกับลดอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง งดการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์ เข้าใจว่าวงการนี้เข้าแล้วออกยาก แต่ก็เชื่อว่าเข้าแล้วออกได้ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจ ให้พี่ๆ น้องๆ ลุง ป้า น้า อา ทุกท่าน สามารถ เลิกบุหรี่และแอลกอฮอล์ได้นะครับ ค่อยๆ เลิกทีละนิด ดีกว่าค่อยๆ ตายแบบผ่อนส่งนะครับ
 

ระหว่างการรักษา กับการดูแลตัวเองให้ดีอย่างหลังดีกว่าเยอะเลยนะครับ

Categoriesสุขภาพ

มะเร็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ กระดูกเปราะ “เซซามิน” นักพัฒนา และฟื้นฟูร่างกาย

มนุษย์ไม่ว่าจะมาจากชาติพันธุ์ไหน สูง ยาว ขาว ดำ แตกต่างกันอย่างไร แต่กลไกของร่างกายก็เหมือนกันทั้งนั้น หากดูแลดี กินอาหารที่มีประโยชน์ ผลลัพธ์ที่ได้คือการที่มีสุขภาพดีก็จะเป็นฉันนั้นเสมอ แต่ในปัจุบันมีหลายปัจจัยที่ทำให้มนุษย์เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ นานาอันเป็นผลมาจากการบริโภคอาหารและสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมลง ปฏิเสธไม่ได้ที่เราจะต้องพบเจอกับโรคร้ายมากมาย และโรคที่พบมากและกำลังมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยในประเทศไทย ได้แก่ โรคมะเร็ง

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะกำลังตระหนักถึงภัยของมะเร็ง และอยากที่จะเรียนรู้วิธีการป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ วันนี้เรามีนักพัฒนาและฟื้นฟูร่างกายมาแนะนำให้ทุกท่านได้รู้จักกัน นั่นคือ สารสกัดธรรมชาติจากเมล็ดงาดำ “เซซามิน”

“เซซามิน” คือสารสกัดธรรมชาติที่ไม่ตกค้างในร่างกาย รับประทานได้ทุกเพศทุกวัย แม้กระทั่งผู้ป่วยก็รับประทานได้ เซซามิน มีคุณสมบัติหลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก แต่ที่โดดเด่นที่สุดจนเป็นที่สนใจกันในวงการการแพทย์อย่างมากนั่นคือ “เซซามิน” สามารถยับยั้งมะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นโรคมะเร็งยอดฮิตของคนไทยได้ นอกจากจะยับยั้งแล้ว ยังช่วยล้างพิษ และฟื้นฟูการทำงานของตับให้ดียิ่งขึ้นได้อีกด้วย อีกทั้ง “เซซามิน” ยังช่วยกระตุ้นในการผลิตเซลล์กระดูก สำหรับผู้ที่มีภาวะกระดูกเปราะได้อีกด้วย

ต้องยอมรับว่า เซซามิน คือสารสกัดจากธรรมชาติที่มีความสามารถในการช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูร่างกายได้อย่างหลากหลาย หลายท่านคงจะไปหาซื้ออาหารเสริม หรือยาบำรุงมารับประทานกันแล้ว แต่เราอยากจะแนะนำ “เคล็ดลับ” เล็กๆ ในการเลือกบริโภค ท่านควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารสกัดจากงาดำ “ไม่ใช่” ผงงาดำ เพราะสารสกัดจากงาดำจะให้ “เซซามิน” มากกว่า ผงงาดำ มากกว่าถึง 20 เท่า! รู้จักเซซามินแล้ว เลือกประเภทของเซซามินให้ถูกต้องด้วยร่างกายก็จะได้รับประโยชน์จากสารสกัดจากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

และถ้าถามว่าผลิตภัณฑ์ใดที่จะให้ “เซซามิน” ในปริมาณที่พอดีและเหมาะสมกับร่างกาย งาดำสกัดพลัส ตรา BIOLEX PLUS มีปริมาณเซซามินสูงถึง 80 มก. ใน 1 แคปซูล ใช้นวัตกรรมชีวโมเลกุล ได้สารสกัดที่มีความเข้มข้นและบริสุทธิ์มากกว่า 99% สกัดจาก “งาดำธรรมชาติ” 100% อุดมไปด้วยคุณสมับติของงาดำ ที่ดีต่อร่างกาย เลือกงาดำสกัดพลัส เลือก BIOLEX PLUS วันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีในอนาคต

Categoriesสุขภาพ

คอเลสเตอรอลสูง น่ากลัวจริงหรือ?

คอเลสเตอรอล (Cholesterol)

คือ ไขมันชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายขี้ผึ้ง พบได้ทั่วไปในเซลล์ของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกาย โดยปกติร่างกายของมนุษย์เราสามารถสังเคราะห์คอเลสเตอรอลขึ้นมาเองได้ และจะสะสมอยู่มากในอวัยวะที่สร้างมันขึ้นมา เช่น ตับ ไขสันหลัง สมอง และผนังหลอดเลือดแดง (atheroma)

คอเลสเตอรอลมีประโยชน์ตรงที่เป็นองค์ประกอบของเนื้อเยื่อสมองและเยื่อหุ้มเซลล์ประสาท ช่วยสร้างเยื่อบุเซลล์ทั่วร่างกาย เป็นสารตั้งต้นในการผลิตฮอร์โมน เป็นวัตถุดิบให้ร่างกายใช้สังเคราะห์วิตามินดี ตลอดจนช่วยในการสร้างน้ำดีที่ใช้ในการย่อยอาหารประเภทไขมันและดูดซึมวิตามินที่ละลายอยู่ในไขมัน อย่างวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ดูเหมือนคอเลสเตอรอลจะมีประโยชน์อยู่มากทีเดียว แล้วการที่คอเลสเตอรอลสูงจะน่ากลัวได้อย่างไร?

แต่…การมีคอเลสเตอรอลเกินความจำเป็น ย่อมส่งผลต่อร่างกาย ด้วยตามธรรมชาติร่างกายสามารถผลิตคอเลสเตอรอลมาใช้ได้เองอยู่แล้ว ซึ่งการผลิตขึ้นมานี้อาจไม่ได้ผลิตคอเลสเตอรอลเฉพาะปริมาณที่จำเป็นต้องใช้ในแต่ละวันเท่านั้น ร่างกายอาจจะผลิตออกมามากกว่านั้นได้  ดังนั้น การที่เรารับประทานอาหารจากภายนอกเข้าไป โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่มีกรดไขมันอิ่มตัวในปริมาณสูง ส่งผลให้มีคอเลสเตอรอลปริมาณมากเกินความจำเป็น และจะไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดแดง พอกพูนหนาขึ้นจนโพรงหลอดเลือดแดงแคบลง เกิดการตีบตันจนเลือดเดินทางไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญๆ ไม่เพียงพอ จนเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โรคหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหัวใจวาย (Heart attack)  ภาวะสมองขาดเลือดชั่วขณะ (Transient ischaemic attack: TIA) และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน (Peripheral arterial disease: PAD)
    ดังนั้น คงได้คำตอบแล้วว่า ภาวะคอเลสเตอรอลสูงน่ากลัวเพียงใด

ลดคอเลสเตอรอลด้วยอาหาร

แนะนำให้ลดหรือเลี่ยงการบริโภคเนื้อสัตว์ติดไขมัน เนื้อสัตว์แปรรูป น้ำมันจากสัตว์ เนย รวมถึงผลิตภัณฑ์จากนมที่เป็นไขมันเต็มส่วน แนะนำให้เลือกแบบพร่องมันเนย หรือขาดมันเนย ลดการบริโภคอาหารที่มีส่วนประกอบของไขมันทรานส์ เลี่ยงผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และหันมาเลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันไม่อิ่มตัว ได้แก่ เนื้อสัตว์ไขมันต่ำ เช่น ปลาชนิดต่างๆ รับประทานอาหารที่ทำจากพืช ถั่วต่างๆ และเลือกใช้น้ำมันจากพืชแทนน้ำมันจากสัตว์ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง รวมไปถึงน้ำมันงา

น้ำมันงา เป็นกลุ่มน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวหลายตำแหน่งสูง (โอเมก้า 6) ทีมีผลต่อการลดระดับ คอเลสเตอรอล LDL ซึ่งคอเลสเตอรอล LDL คือ ไขมันที่ไม่ดีซึ่งทำให้เกิดการสะสมของไขมันบนผนังหลอดเลือด
นอกจากนี้น้ำมันงายังมีสารเซซามินและเซซาโมลีน ซึ่งเป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ และเป็นไฟเบอร์ในกลุ่มลิกแนน (Lignans) ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอล LDL ในเลือดได้ด้วย

ชอบทานอาหารอร่อยแล้ว อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองกันด้วยนะคะ
น้ำมันงาดำสกัดเย็นจากงาดำธรรมชาติ 100% ที่มีปริมาณ ‘เซซามินสูงที่สุด’